สังคมมีการเริ่มต้นมาจากมนุษย์รวมอยู่กันเป็นหมู่คณะอาจจะมีทั้งหญิงและชาย เด็ก คนชรา วัยรุ่นหนุ่มสาว อยู่ในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งเป็นเลยนาน เลยจัดตั้งเป็นภูมิลำเนาขึ้นมาในสถานที่นั้นๆที่ได้มาอยู่รวมกัน เพื่อที่จะได้เรียนรู้ซึ่งกันและกันในสิ่งที่เป็นหลักพื้นฐานของมนุษย์หรือสิ่งที่ให้ความสนใจร่วมกันจนกลายเป็นสังคมเล็กๆจากการศึกษานั้นมนุษย์ถูกจัดให้เป็นสัตว์สังคมเมื่อยู่รวมเป็นกลุ่มกับพวกเดียวกันจะรู้สึกปลอดภัย สบายใจซึ่งส่วนใหญ่จะมีลักษณะที่เหมือนกัน มีส่วยที่ใกล้เคียงกันและคล้ายกัน เช่น ความคิดทัศนคติที่มีไปในทางเดียวกัน คุณธรรมจริยธรรมหรือประเพณีที่ดีงามต่างๆ คนที่มีสิ่งต่างๆเหล่านี้เหมือนกันอย่างใดอย่างหนึ่งในเขตพื้นที่เดียวกัน ก็จะให้ความรู้สึกเป็นพวกเดียวกันคนแบบนี้นั่นคือพวกของเรา
ซึ่งความคิดเรื่องสังคมและวัฒนธรรมนั้นเป็นอะไรที่อธิบายได้ค่อนข้างยากเพราะมันไม่สามารถกำหนดเป็นรูปธรรมได้สำหรับการที่จะทำให้เข้าใจกับความสัมพันธ์ในรูปแบบสังคมแบบนี้ ซึ่งตัวสังคมและวัฒนธรรมมักจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาทำให้นักวิชาการมากมายนั่งคิดวิเคราะห์ พิจารณาในเรื่องนี้ กับทฤษฎีต่างๆ ที่เป็นพื้นฐานต่างๆของชีวิตมนุษย์ถึงแนวทางความคิด การเรียนรู้สิ่งต่างๆที่อยู่รอบๆบริเวณตัวเรา และรูปแบบการอยู่อาศัย ภาษาและกิริยาท่าทางในการแสดงออกมาและเหนือสิ่งอื่นใดนั่นคือสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติของมนุษย์ ได้แก่ ถิ่นฐานที่อยู่อาศัยนั่นเองเพราะแตกต่างที่อยู่กันสิ่งต่างๆรอบตัวย่อมไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่างง่ายๆในเมืองไทย เช่นภาคเหนือและภาคใต้ การใช้ชีวิตของคนบนภูเขาย่อมแตกต่างกับคนที่ใช้ชีวิตกับท้องทะเล อาหารการกินย่อมแตกต่างกินอาหารป่ากับกินอาหารทะเลรวมไปถึงชุดที่ใส่เพราะว่าภาคเหนือมีอากาศหนาวเสื้อผ้าที่ใส่ย่อมให้ความอบอุ่นได้มากกว่าเสื้อผ้าที่คนภาคใต้ใส่ ซึ่งสามารถกล่าวได้ว่า สังคมนั้นคือการรวมกลุ่มของคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง ส่วนวัฒนธรรมนั้นเป็นการกระทำจากกลุ่มคนนั้นๆสืบทอดต่อกันเรื่อยมา